จุดเริ่มต้นของ Bumblebee
- ิBumblebee nursery
- May 12, 2017
- 1 min read
จุดเริ่มต้นของ Bumblebee
จริงๆ Bumblebee nursery เกิดจากความรักของครอบครัวเล็กๆ พ่อเซฟ แม่หลิว และน้องไซเซน
เราก็เหมือนครอบครัวทั่วไป พ่อเซฟ เป็นวิศวกร จบจากสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เคยมีประสบการณ์สมัยวัยรุ่นในการสอนพิเศษเด็กๆ วิชาคณิตศาสตร์ แม่หลิว จบเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำงานอยู่ในแวดวงการเงินการธนาคาร แต่ตอนเด็กๆ ก็ชอบที่จะติวเพื่อนก่อนสอบเช่นกัน ชีวิตก่อนหน้านี้ไม่ได้หรูหราอะไร แต่มีเป้าหมายในการใช้ชีวิตร่วมกัน พึงรักษาศีล 5 อยู่ให้เป็นปกติ
จนวันหนึงเกิดเรื่องมหัศจรรย์กับเรา 2 คน 1 ชีวิตน้อยๆ ได้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ น้องไซเซน ชื่อแปลกใช่ไหม ไซเซน ย่อมาจากรินไซเซน เป็นการสอนศาสนาพุทธนิกายเซนที่เน้นการรู้แจ้งอย่างฉับพลัน เพราะเราอยากให้ลูกเติบโตมาเป็นคนที่ดีและมอบความสุขให้กับคนรอบข้าง แต่ก็เหมือนกับหลายๆ ครอบครัว ที่คุณแม่มีเวลาดูแลลูกน้อยได้เพียง 3 เดือน เท่านั้น หลังจากนั้นก็ต้องกลับไปทำงาน แล้วเราจะเลี้ยงดูลูกได้อย่างไร เมื่อเกิดปัญหา เราทั้ง 2 คนจึงหาทางเลือกร่วมกัน
ทางเลือกที่ 1 ให้พ่อแม่เราเลี้ยงลูก เป็นทางเลือกที่ดีเพราะปู่ ย่า ตา ยาย ย่อมจะเลี้ยงหลานให้ดีที่สุดได้อยู่แล้ว แต่ความสัมพันธ์ในครอบครัวเราล่ะ ลูกเราถ้าเราไม่เลี้ยงเขาจะเสียใจไหมที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ความผูกพันในครอบครัวช่วงชีวิตที่เขาเติบโตเราจะไม่มีทางได้สัมผัส เป็นอันว่า ไม่ผ่าน...
ทางเลือกที่ 2 จ้างพี่เลี้ยงเด็ก ดูแลใกล้ชิดดี แต่ปลอดภัยแน่เหรอ เวลาที่เราไม่อยู่พี่เลี้ยงจะดูแลลูกเราอย่างไร ลูกเราจะได้เรียนรู้อะไรจากพี่เลี้ยงนอกจาก กินอิ่มนอนหลับ ถ้าลูกเป็นอันตรายไปคงไม่มีอะไรมาทดแทนสิ่งที่สูญเสียได้ สรุปว่าไม่ผ่าน....
ทางเลือกที่ 3 ส่งเนอสเซอรี่ ได้มีเวลาของครอบครัว ปลอดภัย นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี ทีเดียว
สุดท้ายเราให้น้องไซเซนเข้าเนอสเซอรี่ ตอนอายุ 7 เดือน ด้วยความคาดหวังว่า น้องจะมีพัฒนาการที่ดี และได้เตรียมตัวที่จะอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น และได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษตั้งแต่ยังเล็ก แต่ปัญหาต่อไปที่เราพบคือ สิ่งที่เราคาดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้เหมือนกัน โลกไม่ได้สวยงามเสมอ ไซเซนป่วยบ่อยมาก ประกันที่ทำไว้ได้ใช้คุ้มเลย ซึ่งเราคิดว่าถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ได้อยากจะใช้เท่าไหร่ พัฒนาการที่คาดหวังก็ไม่ได้รับ หลักๆเกิดจากพ่อแม่ช่วยกันเลี้ยงมากกว่า มาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตเมื่อวันนึงเรามานั่งทบทวนกันว่าเราจะปล่อยให้ลูกเป็นแบบนี้ต่อไปเหรอ คงไม่ดีแน่ๆ ใครๆก็ทราบว่า 1,000 วันแรกเป็นช่วงทองของชีวิต เราควรใส่ใจการเติบโตของเขาให้ดีกว่านี้ แล้วจะทำอย่างไรล่ะ เปลี่ยนที่คนอื่นไม่ได้ ก็เปลี่ยนที่ตัวเรานี่แหละ เลี้ยงเองเลย และด้วยความเยอะของคุณแม่เมื่ออยากจะทำอะไรก็ต้องดีไปเลย จึงได้เข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้ดูแลเด็กเล็ก ไปเรียนเกี่ยวกับโภชนาการเด็ก ,การดูแลเด็กในชีวิตประจำวัน,การทำความสะอาดของใช้และของเล่นเด็ก,พัฒนาการเด็ก,การปฐมพยาบาล และการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ฝึกปฏิบัติที่เนอสเซอรี่เป็น 420 ชั่วโมง จนมีความมั่นใจว่าจะดูแลดวงใจน้อยๆ ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แล้วเราก็ได้ทางเลือกใหม่ ไหนๆ เราก็มีความรู้ความสามารถในการดูแลเด็ก และเราก็มีความสุขในการทำงานนี้ คิดว่าคนอื่นก็มีปัญหาคล้ายๆกันกับเรา เปิดเนอสเซอรี่เองเลยดีกว่า โดยแนวคิดของเรา 2 คน อยู่บนพื้นฐานที่ว่า เราอยากให้เด็กๆในวันนี้ เติบโตมาอย่างมีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง และสังคม ฟังดูเหมือนเรื่องไกลตัว แต่แนวคิดที่เขาได้ในช่วงวัยเล็กๆนี้จะติดตัวเขาไปตลอดชีวิต สังคมของเราควรได้รับความรักต่อกันให้มากกว่านี้ เด็กๆควรได้โอกาสในการแสดงศักยภาพ พ่อแม่ควรได้รับบริการที่ดีในราคาที่เหมาะสม คุณครูที่เป็นผู้ให้ ควรได้รับโอกาสที่ดี มีรายได้มั่นคงและสวัสดิการที่ดี โรงเรียนของเราต้องมีคุณครูที่จบปฐมวัย หรือได้รับการอบรมในการเลี้ยงเด็กเล็กมาก่อน เพราะการเลี้ยงเด็กให้ดี ไม่ใช่ใครเลี้ยงก็ได้ เราต้องมีการสังเกตุสิ่งที่เด็กๆ ถนัดและพัฒนาเขาให้ได้ใช้ศักยภาพในตัวได้มากที่สุด
มาถึงวันนี้ เราได้เริ่มดำเนินการ บัมเบิ้ลบี เนอสเซอรี่ มาตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ ปี 2560 ที่ผ่านมา ด้วยการเลือก
ผึ้ง เป็นสัญลักษณ์ ของเนอสเซอรี่ เนื่องจาก ผึ้ง เป็นสัตว์ที่สื่อถึงการมีความคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม และการเก็บออม สะท้อนตัวตนของเด็กๆ ที่เราอยากให้เป็น
สี ประจำเนอสเซอรี่ เป็นสีฟ้า หมายถึง ปัญญา, ความรู้, ความสงบ,ความเงียบ ,ความศรัทธา,แรงบันดาลใจ
บัมเบิ้ลบี ยังเป็นตัวละครในภาพยนต์เรื่อง Transformer ที่เรา 2 คนชื่นชอบอีกด้วย เป็นหุ่นยนต์ที่มีอารมณ์ขัน แต่ก็มีความสามารถมากมาย แถมยังมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีอีกด้วย
คำขวัญของเนอสเซอรี่ คือ Bumblebee Be Yourself… Be Grateful… ความหมายตรงตัว เราอยากให้เด็กเป็นตัวของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นคนที่นอบน้อมถ่อมตนด้วยเช่นกัน
จากเรื่องราวทั้งหมด เราก็ได้ทำความฝันของเราให้เป็นจริงเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือหากใครต้องการมาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกับเรา ก็เชิญเข้ามาเยี่ยมเยียนกันได้นะคะ พวกเรายินดีต้อนรับเสมอค่ะ
Comments